Learning Log 1
Tuesday 14th January 2020
🔺การคิดคืออะไร🔺
ไบเออร์ (Beyer, 1987) (ดร.สุวิทย์ มูลคำ, 2549: 13) ได้กล่าวว่า "การคิด" คือ การค้นหาความหมาย ผู้ที่คิดคือผู้ที่กำลังค้นหาความหมายของอะไรบางอย่าง นั้นคือกำลังใช้สติปัญญาของตนเอง ทำความเข้าใจกับการนำความรู้ใหม่ที่ได้รับรวมเข้ากับความรู้ดั้งเดิมหรือประสบการณ์ที่มีอยู่ เพื่อหาคำตอบว่าคืออะไร หรือการเอาข้อมูลที่เพิ่งรับเข้ามาใหม่ ไปรวมกับข้อมูลเก่าที่รำลึกได้ เพื่อสร้างเป็นความคิดอ่านหรือข้อตัดสิน
ดิวอี้ ได้ให้แนวคิดเกี่ยวกับความสำคัญของการคิดว่า เป็นสิ่งที่มีคุณค่าเพราะการคิดช่วยให้คนได้มองเห็นภาพปัญหาต่าง ๆ ในอนาคตซึ่งจะช่วยให้บุคคลได้คิดหาแนวทางในการหลีกเลี่ยงหรือป้องกันได้และการคิดช่วยขยายความหมายของสิ่งต่างๆ ใน โลกได้ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการคิดคือ คนจะมีการปฏิบัติหรือการกระทำตามที่เขาคิดถึงแม้ว่ามันจะถูกหรือผิดก็ตาม เนื่องจากการคิดมีพลังอำนาจ จึงต้องการการควบคุมโดยได้แนะนำวิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการช่วยรักษาความคิดให้เป็นไปอย่างถูกต้อง โดยมีการควบคุมเงื่อนไขภายใต้การสังเกต และการสรุปความคิดตามสิ่งที่เกิดขึ้นและได้มีการทบทวนแนวคิด โดยกล่าวว่า สิ่งที่บุคคลรู้จะเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดกระบวนการคิดครั้งแรกแล้วจึงนำไปสู่การคิดในสิ่งอื่นๆ ซึ่งก่อให้เกิดความสมบูรณ์ของกระบวนการคิดนั้น
ดิวอี้ ได้ให้แนวคิดเกี่ยวกับความสำคัญของการคิดว่า เป็นสิ่งที่มีคุณค่าเพราะการคิดช่วยให้คนได้มองเห็นภาพปัญหาต่าง ๆ ในอนาคตซึ่งจะช่วยให้บุคคลได้คิดหาแนวทางในการหลีกเลี่ยงหรือป้องกันได้และการคิดช่วยขยายความหมายของสิ่งต่างๆ ใน โลกได้ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการคิดคือ คนจะมีการปฏิบัติหรือการกระทำตามที่เขาคิดถึงแม้ว่ามันจะถูกหรือผิดก็ตาม เนื่องจากการคิดมีพลังอำนาจ จึงต้องการการควบคุมโดยได้แนะนำวิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการช่วยรักษาความคิดให้เป็นไปอย่างถูกต้อง โดยมีการควบคุมเงื่อนไขภายใต้การสังเกต และการสรุปความคิดตามสิ่งที่เกิดขึ้นและได้มีการทบทวนแนวคิด โดยกล่าวว่า สิ่งที่บุคคลรู้จะเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดกระบวนการคิดครั้งแรกแล้วจึงนำไปสู่การคิดในสิ่งอื่นๆ ซึ่งก่อให้เกิดความสมบูรณ์ของกระบวนการคิดนั้น
😜กระบวนการเรียนรู้สำคัญที่จะนำไปสู่ทักษะการคิดของเด็ก
(Learning Approaches)
1. ส่งเสริมความกระตือรือร้นและความสนใจของเด็ก (Curious and Interest)
2. ส่งเสริมการริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ด้วยตนเอง การคิดและทำอย่างฉับพลัน (Initiative and Improvise)
3. ส่งเสริมให้เด็กมีความมุ่งมั่นและตั้งใจ(Persistence and Attentiveness)
4. ส่งเสริมการสร้างสรรค์และการค้นพบสิ่งใหม่ๆ(Creative and Inventiveness)
5. ให้เด็กได้การสะท้อนความคิดและตีความ(Reflection and Interpretation)
6. ฝึกฝนให้เด็กได้จดจำอย่างเป็นระบบ(Memorization)
7. ส่งเสริมการพัฒนาความคิดและความเข้าใจในข้อมูลพื้นฐาน(Concept Formation)
8. ตรรกวิทยา และความมีเหตุผล (Logic and Reasoning)
9. การคิดอย่างมีวิจารณญาณ (Critical and Analytic Thinking)
👉ปัจจัยพื้นฐานของการคิด
ปัจจัยพื้นฐานของการคิด ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบที่สำคัญ คือ
1. คุณลักษณะของผู้คิด
2. สิ่งเร้า
3. สื่อและอุปกรณ์สำหรับช่วยคิด
2. สิ่งเร้า
3. สื่อและอุปกรณ์สำหรับช่วยคิด
💓 แนวความคิด 10 มิติ
1. การคิดเชิงวิพากย์ (Critical Thinking)
2.การคิดเชิงวิเคราะห์ (Analytical Thinking
3.การคิดเชิงสังเคราะห์ (Synthesis-Type Thinking)
4. การคิดเชิงเปรียบเทียบ (Comparative Thinking)
5. การคิดเชิงมโนทัศน์ (Conceptual Thinking)
6. การคิดเชิงสร้างสรรค์ (Creative Thinking)
7.การคิดเชิงประยุกต์ (Applicative Thinking
8. การคิดเชิงกลยุทธ์ (Strategic Thinking)
9.การคิดเชิงบูรณาการ (Integrative Thinking)
10. การคิดเชิงอนาคต (Futuristic Thinking)
การประเมินตนเอง 👇
ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอน และมีการจดบันทึกเพื่อนำกลับไปทบทวน
การประเมินเพื่อน👇
เพื่อนๆให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม แต่งกายถูกระเบียบ เข้าเรียนตรงเวลา
การประเมินอาจารย์👇
อาจารย์เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายสุภาพ เป็นกันเองกับนักศึกษา สอนเข้าใจในเนื้อหา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น